13 สรรพคุณมากประโยชน์ของกระเจี๊บบแดง

โดยกระเจี๊ยบแดงมีถิ่นกำเนิดมาจาก ประเทศอินเดียและมาเลเซีย ฤดูกาลที่ปลูก: ยอดอ่อนออกในช่วงฤดูฝน ส่วนดอกออกในช่วงเดือนตุลาคม หรือภาษากลางเราจะเรียกกันว่า กระเจี๊ยบ กระเจี๊ยบเปรี้ยว
ภาคใต้เรียกว่า ผักเก้งเค้ง, ส้มเก้งเค้ง
แหล่งปลูกส่วนใหญ่: พบได้ทั่วไปทุกภาคของประเทศไทย ปลูกมากที่ จังหวัด สระบุรี
การกิน: เรียกได้ว่า กระเจี๊ยบแดงนั้นล้วนนำไปทำเป็นอาหารรับประทานได้แทบจะทุกส่วน โดยผลและยอดอ่อน สามารถนำไปต้มแล้วเอามาจิ้มทานกับน้ำพริกได้ ส่วนใบจะมีรสชาติเปรี้ยว ก็สามารถนำไปทำเป็นแกงส้มได้

ลักษณะของกระเจี๊ยบ : กระเจี๊ยบเรียกได้ว่าเป็นพืชล้มลุกทรงพุ่ม จะสูงประมาณ 1-2 เมตร เมื่ออายุได้ 8-12 เดือน โดยลำต้นจะมีผิวเรียบ ตั้งตรง สีของกิ่งก้านและลำต้นจะออกแดงอมม่วง ในส่วนของใบ จะเป็นรูปทรงรี ปลายแหลม ขนาดของใบนั้น ทั้งแนวยาวและกว้างจะมีขนาดที่เกือบจะพอดีกัน โดยดอกของกะเจี๊ยบแดงนั้น จะมีสีแดงเลือดนก ถ้าแก่เต็มที่ กลีบเลี้ยงก็จะติดกัน ผลของกระเจี๊ยบแดงนั้น จะมีรูปทรงรียาวแหลม โดยกลีบเลี้ยงสีแดงจะห่อหุ้มอยู่ ส่วนของเมล็ดจะมีสีดำ

กระเจี๊ยบแดงอบแห้ง ขนาด 500 กรัม

  ประโยชน์ทางยาของ…กระเจี๊ยบแดง ส่วนที่ใช้เป็นยา กลีบเลี้ยง กลีบรองดอกและใบ ช่วงเวลาที่เก็บเป็นยา ต้นโตเต็มที่จนถึงเวลาเก็บเกี่ยว

  รสและสรรพคุณของ…กระเจี๊ยบแดง ใบ รสเปรี้ยว ขับเสมหะ ช่วยย่อยอาหาร ทำให้เลือดไหลเวียนดี ขับปัสสาวะ และขับเมือกในลำไส้ แก้โรคพยาธิตัวจี๊ด ยอดและใบ รสเปรี้ยว เป็นยาบำรุงธาตุ ยาระบาย ละลายเสมหะ ขับปัสสาวะ ช่วยย่อยอาหาร หรือต้มชะล้างบาดแผล หรือนำใบมาโขลกละเอียดประคบฝี

  กลีบเลี้ยง รสเปรี้ยว ขับนิ่วในไต นิ่วในทางเดินปัสสาวะ ขับเมือกมันจากลำไส้ แก้เสมหะ ขับปัสสาวะ ลดไข้ แก้ไอ แก้กระหายน้ำ ละลายไขมันในเลือด

  ผล รสจืด ลดไขมันในเส้นเลือด รักษาแผลในกระเพาะอาหาร แก้กระหายน้ำ บำรุงธาตุ บำรุงร่างกาย

  เมล็ด บำรุงกำลัง บำรุงธาตุ แก้โรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ ขับน้ำดี ลดไขมันในเส้นเลือด ขับเหงื่อ กระตุ้นอารมณ์ทางเพศ

ทั้งห้า รสเปรี้ยว เป็นยาขับเมือกมันในลำไส้ แก้พยาธิตัวจี๊ด

ข้อควรระวังการใช้กระเจี๊ยบแดง กระเจี๊ยบแดงอาจทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ในผู้ป่วยบางราย เพราะมีฤทธิ์เป็นยาระบาย

น้ำกระเจี๊ยบมีฤทธิ์เป็นยาขับปัสสาวะ แม้ว่าจะมีความเป็นพิษต่ำมาก แต่ก็ไม่ควรดื่มในปริมาณเข้มข้นและติดต่อกันนาน ๆ เพราะจะไม่เกิดผลดีต่อสุขภาพ การกินน้ำที่สกัดจากกลีบเลี้ยงของกระเจี๊ยบเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้เป็นพิษต่อตับได้

การดื่มน้ำกระเจี๊ยบแดงขนาดวันละ 16 กรัม จะมีผลทำให้การขับออกของสารต่าง ๆ ออกทางปัสสาวะลดลงมากกว่าขนาดวันละ 24 กรัม การกินกระเจี๊ยบแดงจึงไม่มีประโยชน์ต่อการป้องกันการเกิดนิ่วในไต และอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไตอีกด้วย ดังนั้น ผลจากการกินกระเจี๊ยบแดงในระยะยาวและในขนาดสูงกว่า 24 กรัม/วัน ยังต้องทำการศึกษาต่อไป

สรรพคุณของกระเจี๊ยบแดง

1. ลดไข้
2. แก้ไอ ละลายเสมหะ
3. ขับปัสสาวะ
4. แก้กระหาย ให้ร่างกายสดชื่น
5. รักษาแผลในกระเพาะอาหาร
6. ลดไขมันในเลือด
7. ป้องกันโรคหัวใจ
8. รักษาแผล
9. ป้องกันโลหิตจาง
10. ลดน้ำตาลในเลือด
11. ลดความดันโลหิต
12. ปกป้องไต
13. ฆ่าเชื้อแบคทีเรียในทางเดินปัสสาวะ

ส่วนกระเจี๊ยบแดงที่ถูกใช้มากที่สุดก็เป็นกลีบเลี้ยงหรือที่หลายคนเข้าใจว่าเป็นส่วนดอกของกระเจี๊ยบนั่นเอง และนอกจากทำน้ำกระเจี๊ยบดื่มแก้กระหายแล้ว เรายังสามารถนำยอดและใบอ่อนของกระเจี๊ยบมาปรุงอาหาร